1. สมณะบุณฑริก (สกทาคามี)
2. สกทาคามีในภพมนุษย์
3. สกทาคามี เปรียบได้กับ บุคคลผู้ว่ายเข้าหาฝั่ง
4. เป็นสกทาคามี ได้กายชั้นดุสิต
5. ความเป็นอริยบุคคล กับอินทรีย์ ๕
6. เอกพีชี อินทรีย์ ๕ อ่อนกว่า สกทาคามี
7. ความเป็นอริยบุคคล กับการละสังโยชน์ (บุคคล ๔ จำพวก)
8. สังโยชน์ ๑๐
9. ความเป็นอริยบุคคล กับการละกามโยคะและภวโยคะ (บุคคล ๓ จำพวก)
10 . ความเป็นอริยบุคคล กับสิกขา ๓
11 . สิกขา ๓
12 . ผู้ที่ต้องศึกษาสิกขา ๓
13 . บุคคลที่มีเชื้อเหลือ แต่พ้นทุคติ
14 . บุคคลผู้พ้นทุคติ หรือไม่ไปทุคติ
15 . ผู้เชื่อมั่นในตถาคต ที่สำเร็จในโลกนี้ และที่ละโลกนี้ไปแล้วจึงสำเร็จ
16 . ข้อแตกต่างระหว่างอริยสาวกผู้ได้สดับกับปุถุชนผู้ไม่ได้สดับ เมื่อได้สมาธิ (รูปสัญญา)
17 . ข้อแตกต่างระหว่างอริยสาวกผู้ได้สดับกับปุถุชนผู้ไม่ได้สดับ เมื่อเจริญพรหมวิหาร
18 . ข้อแตกต่างระหว่างอริยสาวกผู้ได้สดับกับปุถุชนผู้ไม่ได้สดับ เมื่อได้สมาธิ (อรูปสัญญา)
19 . อริยสาวกผู้ประกอบด้วยสังโยชน์ แต่ไม่มีสังโยชน์ที่เป็นเหตุให้กลับมายังโลกนี้อีก
20 . ผลของการประกอบตนให้ติดเนื่องในความสุข ๔ ประการ
21 . บุคคลผู้ควรแก่ของทำบุญ
22 . สัทธานุสารี ธัมมานุสารี โสดาบัน
23 . แม้แต่อริยบุคคลขั้นโสดาบัน ก็ไม่อาจแปรปรวน
กาม และ กามคุณ
24 . ความหมายของกามและกามคุณ
25 . โลก ในอริยวินัย คือ กามคุณ ๕
26 . โลก คือ สิ่งที่แตกสลายได้
27 . กามคุณ ๕ คือ เครื่องจองจำในอริยวินัย
28 . กามเลว ปานกลาง และประณีต
29 . กามอันเป็นทิพย์ ประณีตกว่ากามของมนุษย์
30 . เทียบเคียงลักษณะเทวดาชั้นดาวดึงส์
31 . คุณของกามและโทษของกาม
32 . สุขที่ควรกลัวและไม่ควรกลัว
33 . ตั้งอยู่ในภูมิคนแก่ เพราะละกามได้
34 . ไม่เวียนกลับไปสู่กามทั้งหลายอีก เพราะบรรลุสุขอื่นที่สงบกว่า
35 . เหตุเกิดของอกุศลวิตก
36 . ข้อปฏิบัติเพื่อดับอกุศลสังกัปปะ (ความดำริอันเป็นอกุศล)
37 . เหตุเกิดของกามฉันทะ
38 . อาหารของกามฉันทะ
39 . เมื่อตั้งใจฟังธรรม กามฉันทะ ย่อมไม่มี
ราคะ โทสะ โมหะ
40 . ธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว บรรเทาได้ยาก
41 . ไฟ คือ ราคะ โทสะ โมหะ
42 . เหตุให้เป็นคนดุร้าย หรือคนสงบเสงี่ยม
43 . อาชีพที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ ราคะ โทสะ โมหะ
44 . ความแตกต่างของ ราคะ โทสะ โมหะ และวิธีละราคะ โทสะ โมหะ
45 . เจริญอสุภะเพื่อละราคะ เจริญเมตตาเพื่อละโทสะเจริญปัญญาเพื่อละโมหะ
46 . เจริญอนุสสติ เพื่อละราคะ โทสะ โมหะ
47 . ศึกษาในสิกขา ๓ เพื่อละราคะ โทสะ โมหะ
48 . การละธรรม ๓ เพื่อละราคะ โทสะ โมหะ
49 . เห็นสัญโญชนิยธรรมโดยความเป็นของน่าเบื่อหน่ายเพื่อละราคะ โทสะ โมหะ
50 . เพราะมีความสิ้นไปแห่งนันทิ จึิงมีความสิ้นไปแห่งราคะ
51 . นิพพานที่เห็นได้เอง
ภพ ๓
52 . ภพ ๓ (กามภพ รูปภพ อรูปภพ)
53 . การตั้งอยู่ของวิญญาณ คือ การบังเกิดในภพใหม่
54 . การตั้งอยู่ของความเจตนา หรือความปรารถนาคือ การบังเกิดในภพใหม่
55 . ฉันทะ ราคะ นันทิ ตัณหา อุปายะและอุปาทาน ในขันธ์ ๕ คือ เครื่องนำไปสู่ภพ
56 . มีจิตฝังลงไปในสิ่งใด เครื่องนำไปสู่ภพใหม่ย่อมมี
57 . มีจิตฝังลงไปในสิ่งใด การก้าวลงแห่งนามรูปย่อมมี
58 . มีจิตฝังลงไปในสิ่งใด การเกิดขึ้นแห่งภพใหม่ต่อไปย่อมมี
ข้อปฏิบัติเพื่อความเป็น อริยบุคคล
59 . อานิสงส์ของธรรม ๔ ประการ
60 . ละธรรม ๕ อย่าง ได้ความเป็นอริยบุคคล
61 . ผลของการพิจารณาเห็นสังขาร โดยความไม่เที่ยง
62 . ผลของการพิจารณาเห็นสังขาร โดยความเป็นทุกข์
63 . ผลของการพิจารณาเห็นธรรม โดยความเป็นอนัตตา
64 . ผลของการพิจารณาเห็นนิพพาน โดยความเป็นสุข
65 . การเห็นเพื่อละสังโยชน์
66 . การเห็นเพื่อละอนุสัย
67 . การเห็นเพื่อละอาสวะ
68 . การเห็นเพื่อละอวิชชา
69 . เหตุสำเร็จตามความปรารถนา
70 . บทสรุป
*****
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น