วันอังคารที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

สุคติของเทวดา

ภิกษุทั้งหลาย !  เมื่อใด เทวดาเป็นผู้จะต้องจุติจากเทพนิกาย
เมื่อนั้น นิมิตร ๕ ประการ ย่อมปรากฏแก่เทวดานั้น คือ :-
(๑) ดอกไม้ย่อมเหี่ยวแห้ง
(๒) ผ้าย่อมเศร้าหมอง
(๓) เหงื่อย่อมไหลออกจากรักแร้ 
(๔) ผิวพรรณเศร้าหมองย่อมปรากฏที่กาย
(๕) เทวดาย่อมไม่ยินดีในทิพอาสน์ของตน

ภิกษุทั้งหลาย !  เทวดาทั้งหลายทราบว่า
เทพบุตรนี้จะต้องเคลื่อนจากเทพนิกาย
ย่อมพลอยยินดีกะเทพบุตรนั้นด้วยถ้อยคำ ๓ อย่างว่า
แน่ะท่านผู้เจริญ ! 
ขอท่านจากเทวโลกนี้ไปสู่สุคติ
ครั้นไปสู่สุคติแล้ว ขอจงได้ลาภที่ท่านได้ดีแล้ว ๑
ครั้นได้ลาภที่ท่านได้ดีแล้ว ขอจงเป็นผู้ตั้งอยู่ด้วยดี

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! 
อะไรหนอแล เป็นส่วนแห่งการไปสู่สุคติของเทวดาทั้งหลาย
อะไรเป็นส่วนแห่งลาภที่เทวดาทั้งหลายได้ดีแล้ว
อนึ่ง อะไรเป็นส่วนแห่งการตั้งอยู่ด้วยดีของเทวดาทั้งหลายพระเจ้าข้า !


ภิกษุทั้งหลาย ! 
ความเป็นมนุษย์ นี้แล
เป็นส่วนแห่งการไปสู่สุคติของเทวดาทั้งหลาย
เทวดาเกิดเป็นมนุษย์แล้ว
ย่อมได้ศรัทธาในธรรมวินัยที่พระตถาคตประกาศแล้ว
นี้แลเป็น ส่วนแห่งลาภที่เทวดาทั้งหลายได้ดีแล้ว
ศรัทธาของเทวดาใดนั้นตั้งมั่นแล้ว มีรากหยั่งลงมั่นแล้ว
อันสมณะ พราหมณ์ เทวดา มาร พรหม หรือใครๆ ในโลก พึงนำไปไม่ได้
นี้แลเป็นส่วนแห่งการตั้งอยู่ด้วยดีของเทวดาทั้งหลาย
ภิกษุทั้งหลาย !  เมื่อใด เทวดาจะต้องจุติจากเทพนิกายเพราะความสิ้นอายุ เมื่อนั้น
เสียง ๓ อย่างของเทวดาทั้งหลายผู้พลอยยินดีย่อมเปล่งออกไปว่า :- 
“แน่ะท่านผู้เจริญ ! ท่านจากเทวโลกนี้ไปแล้วจงถึงสุคติ
จงถึงความเป็นสหายแห่งมนุษย์ทั้งหลายเถิด
เมื่อท่านเป็นมนุษย์แล้ว
จงได้ศรัทธาอย่างยิ่งในพระสัทธรรมศรัทธาของท่านนั้นพึงตั้งลงมั่น
มีรากหยั่งลงมั่นในพระสัทธรรมที่พระตถาคตประกาศดีแล้ว
อันใครๆ พึงนำไปมิได้ตลอดชีพ
ท่านจงละกายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต
และอย่ากระทำอกุศลกรรมอย่างอื่นที่ประกอบด้วยโทษ
กระทำกุศลด้วยกาย ด้วยวาจาให้มาก
กระทำกุศลด้วยใจหาประมาณมิได้ หาอุปธิมิได้
แต่นั้นท่านจงกระทำบุญอันให้เกิดสมบัตินั้นให้มากด้วยทาน
แล้วยังสัตว์แม้เหล่าอื่นให้ตั้งอยู่ในพระสัทธรรม ในพรหมจรรย์”
เมื่อใด เทวดาพึงรู้แจ้งซึ่งเทวดาผู้จะจุติ
เมื่อนั้นย่อมพลอยยินดีด้วยความอนุเคราะห์นี้ว่า
“แน่ะเทวดา ! ท่านจงมาบ่อยๆ”.

-บาลี ขุ. ขุ. ๒๕/๒๘๙/๒๖๑.

พุทธวจน ภพภูมิิ พุทธพจน์

1 ความคิดเห็น: