วันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ลำดับการหลุดพ้นโดยละเอียด เมื่อเห็นอนัตตา

ภิกษุ ทั้งหลาย. ! รูปเป็นสิ่งที่ไม่เที่ยง สิ่งใดไม่เที่ยง
สิ่งนั้นเป็นทุกข์ สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้นเป็นอนัตตา สิ่งใด
เป็นอนัตตา สิ่งนั้นนั้น ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่เป็นเรา ไม่ใช่
เป็นตัวตนของเรา : เธอทั้งหลายพึงเห็นข้อนั้น ด้วยปัญญา
โดยชอบ ตรงตามที่เป็นจริง อย่างนี้ ด้วยประการดังนี้.
(ในกรณีแห่งเวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ ก็ตรัส
อย่างเดียวกันกับในกรณีแห่งรูปทุกประการ)

ภิกษุ ทั้งหลาย. ! เมื่อบุคคลเห็นข้อนั้น ด้วยปัญญาโดย
ชอบตรงตามที่เป็นจริงอยู่อย่างนี้, ปุพพันตานุทิฏฐิ
(ความตามเห็นขันธ์ส่วนอดีต) ทั้งหลาย ย่อมไม่มี;
เมื่อปุพพันตานุทิฏฐิทั้งหลายไม่มี, อปรันตานุทิฏฐิ
ทั้งหลาย (ความตามเห็นขันธ์ส่วนอนาคต) ย่อมไม่มี;
เมื่ออปรันตานุทิฏฐิทั้งหลายไม่มี, ความยึดมั่น
ลูบคลำอย่างแรงกล้า ย่อมไม่มี;
เมื่อความยึดมั่นลูบคลำอย่างแรงกล้าไม่มี, จิตย่อม
จางคลายกำหนัด ในรูป ในเวทนา ในสัญญา ในสังขาร
ทั้งหลาย ในวิญญาณ ย่อมหลุดพ้นจากอาสวะทั้งหลาย
เพราะไม่มีความยึดมั่นถือมั่น;
เพราะจิตหลุดพ้นแล้ว
จิตจึงดำรงอยู่ (ตามสภาพของจิต);
เพราะเป็นจิตที่ดำรงอยู่
จิตจึงยินดีร่าเริงด้วยดี;
เพราะเป็นจิตที่ยินดีร่าเริงด้วยดี
จิตจึงไม่หวาดสะดุ้ง;
เมื่อไม่หวาดสะดุ้ง
ย่อมปรินิพพาน (ดับรอบ) เฉพาะตนนั่นเทียว
เธอนั้นย่อมรู้ชัดว่า
“ชาติสิ้นแล้ว, พรหมจรรย์ได้อยู่จบแล้ว,
กิจที่ควรทำ ได้ทำสำเร็จแล้ว,
กิจอื่นที่จะต้องทำเพื่อความเป็นอย่างนี้ มิได้มีอีก” ดังนี้.
ขนฺธ. สํ. ๑๗/๕๗/๙๓.

1 ความคิดเห็น:

  1. เราจะขยายความได้ไหม เหมือนอย่างที่พระอ.ท่านขยายความตอนท่านเทศน์อ่ะค่ะ เพราะหลายคนอ่านแล้วไม่เข้าใจ

    ตอบลบ