วันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ผู้เข้าไปหา เป็นผู้ไม่หลุดพ้น ผู้ไม่เข้าไปหา ย่อมเป็นผู้หลุดพ้น

ภิกษุ ทั้งหลาย ! ผู้เข้าไปหา เป็นผู้ไม่หลุดพ้น ;
ผู้ไม่เข้าไปหา เป็นผู้หลุดพ้น.

ภิกษุ ทั้งหลาย ! วิญญาณ ซึ่ง 
เข้าถือเอารูป ตั้งอยู่ ก็ตั้งอยู่ได้,
เป็นวิญญาณที่มีรูปเป็นอารมณ์ 
มีรูปเป็นที่ตั้งอาศัย 
มี นันทิ (ความเพลิน) เป็นที่เข้าไปส้องเสพ
ก็ถึงความเจริญ งอกงาม ไพบูลย์ ได้ ;

ภิกษุ ทั้งหลาย ! วิญญาณ ซึ่ง 
เข้าถือเอาเวทนา ตั้งอยู่ ก็ตั้งอยู่ได้,
เป็นวิญญาณที่มีเวทนาเป็นอารมณ์ 

มีเวทนาเป็นที่ตั้งอาศัย 
มี นันทิ (ความเพลิน) เป็นที่เข้าไปส้องเสพ 
ก็ถึงความเจริญ งอกงาม ไพบูลย์ ได้ ;

ภิกษุ ทั้งหลาย ! วิญญาณ ซึ่ง 
เข้าถือเอาสัญญา
ตั้งอยู่ ก็ตั้งอยู่ได้, 
เป็นวิญญาณที่มีสัญญาเป็นอารมณ์ 
มีสัญญาเป็นที่ตั้งอาศัย 
มี นันทิ (ความเพลิน) เป็นที่เข้าไปส้องเสพ 
ก็ถึงความเจริญ งอกงาม ไพบูลย์ ได้ ;ภิกษุ ทั้งหลาย ! วิญญาณ ซึ่ง 
เข้าถือเอาสังขารตั้งอยู่ ก็ตั้งอยู่ได้, 
เป็นวิญญาณที่มีสังขารเป็นอารมณ์ 
มีสังขารเป็นที่ตั้งอาศัย 
มี นันทิ (ความเพลิน) เป็นที่เข้าไปส้องเสพ 
ก็ถึงความเจริญ งอกงาม ไพบูลย์ ได้.

ภิกษุ ทั้งหลาย ! ผู้ใดจะพึงกล่าวอย่างนี้ว่า 
เราจักบัญญัติ ซึ่งการมา การไป
การจุติ การอุบัติ ความเจริญ
ความงอกงาม 
และความไพบูลย์ของวิญญาณ
โดย เว้น
จากรูป เว้นจากเวทนา เว้นจากสัญญา และเว้นสังขาร
ดังนี้นั้น, 
นี่ ไม่ใช่ฐานะที่จักมีได้เลย.

ภิกษุ ทั้งหลาย ! ถ้าราคะในรูปธาตุ ในเวทนาธาตุ
ในสัญญาธาตุ ในสังขารธาตุ ในวิญญาณธาตุ
เป็นสิ่งที่
ภิกษุละได้แล้ว ;

เพราะละราคะได้ อารมณ์สำหรับวิญญาณก็ขาดลง 
ที่ตั้งของวิญญาณก็ไม่มี.
วิญญาณอันไม่มีที่ตั้งนั้นก็ไม่งอกงาม 
หลุดพ้นไปเพราะไม่ถูกปรุงแต่ง ;
เพราะหลุดพ้นไปก็ตั้งมั่น 
เพราะตั้งมั่นก็ยินดีในตนเอง ;
เพราะยินดีในตนเองก็ไม่หวั่นไหว ;
เมื่อ
ไม่หวั่นไหวก็ปรินิพพานเฉพาะตน ;

ย่อมรู้ชัดว่า “ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว
กิจที่ควรทำได้ทำสำเร็จแล้ว 

กิจอื่นที่จะต้องทำเพื่อความเป็นอย่างนี้ มิได้มีอีก” ดังนี้.

ขนฺธ. สํ. ๑๗ / ๖๖ / ๑๐๕.

ผู้เข้าไปหาเป็นผู้ไม่หลุดพ้น  ผู้ไม่เข้าไปหาย่อมหลุดพ้น

พุทธวจน ตามรอยธรรม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น