เล่ม ๑๖ อนาคามี



สารบัญ
อนาคามี (พระสูตรที่ควรทราบ)
1.ชื่อของอริยบุคคล (นัยที่ ๑)
2.ชื่อของอริยบุคคล (นัยที่ ๒)
3.ชื่อของอริยบุคคล (นัยที่ ๓)
4.ชื่อของอริยบุคคล (นัยที่ ๔)
5.ความเป็นอริยบุคคล กับการละเครื่องผูก (นัยที่ ๑)
6.โยคะ ๔
7.คลายความพอใจในกาม เป็นเทวดาเหล่าสุทธาวาส
8.ความเป็นอริยบุคคล กับการละเครื่องผูก (นัยที่ ๒)
9.สังโยชน์ ๑๐
10.โอรัมภาคิยสังโยชน์ ๕
11.อุปมาช่างตีเหล็ก
12.ความเป็นอริยบุคคลกับสิกขา ๓ (นัยที่ ๑)
13.ความเป็นอริยบุคคลกับสิกขา ๓ (นัยที่ ๒)
14.ความเป็นอริยบุคคลกับสิกขา ๓ (นัยที่ ๓)
15.ความเป็นอริยบุคคลกับอินทรีย์ ๕ (นัยที่ ๑)
16.ความเป็นอริยบุคคลกับอินทรีย์ ๕ (นัยที่ ๒)
17.ความเป็นอริยบุคคลกับอินทรีย์ ๕ (นัยที่ ๓)
18.อนาคามีในภพมนุษย์ (นัยที่ ๑)
19.อนาคามีในภพมนุษย์ (นัยที่ ๒)
20.ผู้สิ้นสังโยชน์ในภพมนุษย์ (นัยที่ ๑)
21.ผู้สิ้นสังโยชน์ในภพมนุษย์ (นัยที่ ๒)
22.ผู้สิ้นสังโยชน์ในภพมนุษย์ (นัยที่ ๓)
23.ผู้สิ้นสังโยชน์ในภพมนุษย์ (นัยที่ ๔)
25.ผู้สิ้นสังโยชน์ในภพมนุษย์ (นัยที่ ๖)
26.ผู้สิ้นสังโยชน์ในภพมนุษย์ (นัยที่ ๗)
27.ข้อแตกต่างระหว่างอริยสาวกผู้ได้สดับกับปุถุชนผู้ไม่ได้สดับ เมื่อได้สมาธิ (นัยที่ ๑)
28.ข้อแตกต่างระหว่างอริยสาวกผู้ได้สดับกับปุถุชนผู้ไม่ได้สดับ เมื่อได้สมาธิ (นัยที่ ๒)
29.ข้อแตกต่างระหว่างอริยสาวกผู้ได้สดับกับปุถุชนผู้ไม่ได้สดับ เมื่อเจริญพรหมวิหาร
30.ผลของการได้สมาธิ แล้วเห็นความไม่เที่ยง (นัยที่ ๑)
31.ผลของการได้สมาธิ แล้วเห็นความไม่เที่ยง (นัยที่ ๒)
32.เหตุได้ความเป็นอนาคามี หรืออาคามี
33.ผลของการเจริญพรหมวิหาร แล้วเห็นความไม่เที่ยง
34.โลก คือ สิ่งที่แตกสลายได้

ข้อควรรู้เกี่ยวกับ “กาม”
35.กามคุณ ๕ คือ โลกในอริยวินัย
36.กามคุณ คือ เครื่องจองจำในอริยวินัย
37.เครื่องจองจำที่มั่นคง
38.ความหมายของกามและกามคุณ
39.คุณของกามและโทษของกาม
40.สุขที่ควรกลัวและไม่ควรกลัว
41.บ่วงแห่งมาร
42.การรู้สึกตัวในเรื่องกามคุณ ๕
43.เหตุเกิดของวิตกที่เป็นอกุศล
44.เหตุเกิดของกามฉันทะ ในนิวรณ์ ๕
45.อาหารของกามฉันทะ ในนิวรณ์ ๕
46.นิวรณ์ ๕ คือ กองอกุศล สติปัฏฐาน ๔ คือ กองกุศล
47.นิวรณ์ ๕ ทำปัญญาให้ถอยกำลัง
48.นิวรณ์ ๕ ที่ตั้งแห่งความดับปัญญา โพชฌงค์ ๗ ที่ตั้งแห่งความเจริญปัญญา
49.เหตุปัจจัยเพื่อ ความไม่รู้ ความไม่เห็นและเหตุปัจจัยเพื่อ ความรู้ ความเห็น
50.สิ่งที่ทำให้จิตหม่นหมอง
51.เหตุให้สาธยายธรรมได้แจ่มแจ้ง
52.นิวรณ์ ๕ อีกนัยหนึ่ง
53.อวิชชา คือ นิวรณ์
54.เมื่อตั้งใจฟังธรรม นิวรณ์ ๕ ย่อมไม่มี
55.การพิจารณาเห็นธรรมในธรรม ในแง่มุมของนิวรณ์
56.จิตที่หลุดพ้นดีแล้ว

ภพ ๓ - คติ ๕
57.ภพ ๓
58.ความมีขึ้นแห่งภพ (นัยที่ ๑)
59.ความมีขึ้นแห่งภพ (นัยที่ ๒)
60.เครื่องนำไปสู่ภพ 175 175
61.ความเกิดขึ้นแห่งภพใหม่ (นัยที่ ๑)
62.ความเกิดขึ้นแห่งภพใหม่ (นัยที่ ๒)
63.ความเกิดขึ้นแห่งภพใหม่ (นัยที่ ๓)
64.ที่ตั้งอยู่ของวิญญาณ (นัยที่ ๑)
65.ที่ตั้งอยู่ของวิญญาณ (นัยที่ ๒)
66.ความมีขึ้นแห่งภพ แม้มีอยู่ชั่วขณะก็น่ารังเกียจ
67.คติ ๕
68.เหตุให้ทุคติปรากฏ
69.เหตุให้สุขคติปรากฏ
70.เหตุให้ต้องท่องเที่ยวในสังสารวัฏ
71.สังสารวัฏกำหนดที่สุดไม่ได้

สังโยชน์ คือ เครื่องผูก
72.สังโยชน์ ๗
73.ที่ตั้งของสังโยชน์ และสังโยชน์
74.ความติดใจ ก็เป็นสังโยชน์
75.ผลของการพิจารณาธรรม อันเป็นที่อาศัยของสังโยชน์
76.ผลของการพิจาณาเห็นโทษ ในธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งสังโยชน์
77.อุปาทาน ๔
78.ที่ตั้งของอุปาทาน และอุปาทาน
79.อนุสัย ๓ และเหตุเกิด
80.ละเวทนา ๓ เพื่อละอนุสัย ๓
81.การเห็นเวทนา ที่เป็นไปเพื่อสิ้นอาสวะ
82.อนุสัย ๗

ผู้สิ้นสังโยชน์
83.ชื่อของอริยบุคคล (นัยที่ ๕)
84.ชื่อของอริยบุคคล (นัยที่ ๖)
85.บุคคลตกน้ำ ๗ จำพวก
86.บุคคล ๔ จำพวก
87.ผลของการประกอบตนในสุข
88.สัทธานุสารี ธัมมานุสารี โสดาบัน
89.ผู้เชื่อมั่นในตถาคต และสำเร็จในโลกนี้หรือละโลกนี้ไปแล้วจึงสำเร็จ
90.ผู้เป็นอสังขารปรินิพพายี ผู้เป็นสสังขารปรินิพพายี
91.เป็นการยากที่จะพยากรณ์ว่า ใครงดงามและประณีตกว่า
92.ผู้พ้นทุคติ หรือไม่ไปทุคติ
93.เทวดาใดไม่มีพยาบาท เทวดานั้นไม่มาสู่ความเป็นอย่างนี้
94.ผู้เป็นเสขะ
95.สิกขา ๓
96.บรรพชิตกับคฤหัสถ์ ละสังโยชน์ได้ไม่เท่ากัน
97.ละสังโยชน์ได้ ถึงจะทำที่สุดทุกข์ได้
98.ข้อแตกต่างระหว่างอริยสาวกผู้ได้สดับกับปุถุชนผู้ไม่ได้สดับ เมื่อเสวยเวทนา
99.ธรรมที่น่าอัศจรรย์ในธรรมวินัยนี้
100.ปัจจัยให้สุขทุกข์ภายในเกิดขึ้น
101.นิพพานธาตุ ๒ อย่าง

ข้อปฏิบัติเพื่อสิ้นสังโยชน์
102.ผู้หลับน้อย ตื่นมากในราตรี
103.ธรรมมีอุปการะมากต่อผู้เป็นเสขะ
104.ปฏิปทาบรรลุมรรคผล ๔ แบบ
 -แบบปฏิบัติลำบาก รู้ได้ช้า
-แบบปฏิบัติลำบาก รู้ได้เร็ว
-แบบปฏิบัติสบาย รู้ได้ช้า
-แบบปฏิบัติสบาย รู้ได้เร็ว
105.ความพรากจากโยคะ ๔
106.เหตุสำเร็จความปรารถนา (นัยที่ ๑)
107.เหตุสำเร็จความปรารถนา (นัยที่ ๒)
108.อานิสงส์การฟังธรรมโดยกาลอันควร
109.ประโยชน์ของการฟังกุศลธรรม
110.การให้ทาน แล้วเป็นอนาคามี
111.ละธรรมอย่างหนึ่ง ได้อนาคามี (นัยที่ ๑)
112.ละธรรมอย่างหนึ่ง ได้อนาคามี (นัยที่ ๒)
113.ละธรรมอย่างหนึ่ง ได้อนาคามี (นัยที่ ๓)
114.ละธรรมอย่างหนึ่ง ได้อนาคามี (นัยที่ ๔)
115.ละธรรมอย่างหนึ่ง ได้อนาคามี (นัยที่ ๕)
116.เจริญพรหมวิหาร ได้อรหันต์หรืออนาคามี
117.อานิสงส์ที่มุ่งหวัง ของการเจริญอนิจจสัญญา
118.อานิสงส์ที่มุ่งหวัง ของการเจริญทุกขสัญญา
119.อานิสงส์ที่มุ่งหวัง ของการเจริญอนัตตสัญญา
120.ผลของการเจริญอนิจจสัญญา
121.ผลของการพิจารณาเห็นสังขาร โดยความไม่เที่ยง
122.ผลของการพิจารณาเห็นสังขาร โดยความเป็นทุกข์
123.ผลของการพิจารณาเห็นธรรม โดยความเป็นอนัตตา
124.ผลของการพิจารณาเห็นนิพพาน โดยความเป็นสุข
125.การเห็นเพื่อละสังโยชน์
126.การเห็นเพื่อละอนุสัย
127.การเห็นเพื่อละอาสวะ
128.การเห็นเพื่อละอวิชชา
129.อานิสงส์ของธรรม ๑ ประการ (นัยที่ ๑)
130.อานิสงส์ของธรรม ๑ ประการ (นัยที่ ๒)
131.อานิสงส์ของธรรม ๔ ประการ
132.อานิสงส์ของธรรม ๕ ประการ (นัยที่ ๑)
133.อานิสงส์ของธรรม ๕ ประการ (นัยที่ ๒)
134.ละธรรม ๕ อย่าง ได้ความเป็นอริยบุคคล (นัยที่ ๑)
135.ละธรรม ๖ อย่าง ได้อนาคามิผล
136.ละธรรม ๖ อย่าง ได้อรหัตตผล
137.อานิสงส์ของสติปัฏฐาน ๔ (นัยที่ ๑)
138.อานิสงส์ของสติปัฏฐาน ๔ (นัยที่ ๒)
139.เจริญสติปัฏฐาน ๔ เพื่อละ โอรัมภาคิยสังโยชน์
140.เจริญสติปัฏฐาน ๔ เพื่อละ อุทธัมภาคิยสังโยชน์
141.เจริญสติปัฏฐาน ๔ เพื่อละนิวรณ์
142.ปฏิปทาให้ถึงการเจริญสติปัฏฐาน
143.อานิสงส์ของอานาปานสติ ๒ ประการ
144.อานิสงส์ของอานาปานสติ ๗ ประการ
145.เจริญสัมมัปธาน ๔ เพื่อละ โอรัมภาคิยสังโยชน์
146.เจริญสัมมัปธาน ๔ เพื่อละ อุทธัมภาคิยสังโยชน์
147.อานิสงส์ ๒ ประการ ของอิทธิบาท ๔
148.อานิสงส์ ๗ ประการ ของอิทธิบาท ๔
149.เจริญอิทธิบาท ๔ เพื่อละ โอรัมภาคิยสังโยชน์
150.อานิสงส์ ๒ ประการ ของอินทรีย์ ๕
151.อานิสงส์ ๗ ประการ ของอินทรีย์ ๕
152.เจริญอินทรีย์ ๕ เพื่อละ โอรัมภาคิยสังโยชน์
153.เจริญอินทรีย์ ๕ เพื่อละ อุทธัมภาคิยสังโยชน์
154.เจริญพละ ๕ เพื่อละ โอรัมภาคิยสังโยชน์
155.เจริญพละ ๕ เพื่อละ อุทธัมภาคิยสังโยชน์
156.อานิสงส์ ๗ ประการ ของโพชฌงค์ ๗
157.อานิสงส์ ๒ ประการ ของการเจริญสัญญาแบบต่างๆ
158.เจริญโพชฌงค์ ๗ เพื่อละ โอรัมภาคิยสังโยชน์
159.เจริญโพชฌงค์ ๗ เพื่อละ อุทธัมภาคิยสังโยชน์
160.เจริญอริยมรรคประกอบด้วยองค์ ๘ เพื่อละนิวรณ์ ๕
161.เจริญอริยมรรคประกอบด้วยองค์ ๘ เพื่อละกามคุณ ๕
162.เจริญอริยมรรคประกอบด้วยองค์ ๘ เพื่อละการแสวงหา ๓
163.เจริญอริยมรรคประกอบด้วยองค์ ๘ เพื่อละอาสวะ ๓
164.เจริญอริยมรรคประกอบด้วยองค์ ๘ เพื่อละภพ ๓
165.เจริญอริยมรรคประกอบด้วยองค์ ๘ เพื่อละตัณหา ๓
166.เจริญอริยมรรคประกอบด้วยองค์ ๘ เพื่อละโยคะ ๔
167.เจริญอริยมรรคประกอบด้วยองค์ ๘ เพื่อละอนุสัย ๗
168.เจริญอริยมรรคประกอบด้วยองค์ ๘ เพื่อละอุปาทานขันธ์ ๕
169.เจริญอริยมรรคประกอบด้วยองค์ ๘ เพื่อละ โอรัมภาคิยสังโยชน์
170.เจริญอริยมรรคประกอบด้วยองค์ ๘ เพื่อละ อุทธัมภาคิยสังโยชน์
171.เจริญอริยมรรคประกอบด้วยองค์ ๘ ละสังโยชน์ได้ไม่ยาก
172.การละสังโยชน์ ที่เป็นเหตุให้กลับมายังโลกนี้อีก (นัยที่ ๑)
173.การละสังโยชน์ ที่เป็นเหตุใหกลับมายังโลกนี้อีก (นัยที่ ๒)
174.ปฏิปทาเพื่อละโอรัมภาคิยสังโยชน์
175.การน้อมใจเพื่อตัดโอรัมภาคิยสังโยชน์
176.สิ่งที่ควรพิจารณาเนืองๆ เพื่อละสังโยชน์
177.ปริหานธรรม อปริหานธรรม และอภิภายตนะ ๖
178.ผลของความไม่ประมาท ในผัสสายตนะ ๖
179.ผลของการมีสังวร และไม่มีสังวร
180.ข้อปฏิบัติเพื่อดับ ความดำริอันเป็นอกุศล
181.ผลของการละอกุศลวิตก
182.สมัยที่ควรเข้าไปพบ ภิกษุผู้เจริญภาวนาทางใจ
183.ผลของการมีมิตรดี
184ผู้มีกุศลสมบูรณ์
185.ผู้มีสังโยชน์ในภายใน และในภายนอก
186.ผู้มีสิกขาเป็นอานิสงส์
187.ผู้มีความเพียรเป็นเครื่องตื่น
188.ผู้มีความหลีกเร้นเป็นที่มายินดี
189.การอบรมจิต ด้วยสิ่งสมควรแก่บรรพชา





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น