วันจันทร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

เหตุที่ทำให้ทรงพระนามว่า “ตถาคต”

ภิกษุทั้งหลาย !  โลกเป็นสภาพที่ตถาคตได้รู้พร้อมเฉพาะแล้ว
ตถาคตจึงเป็นผู้ถอนตนจากโลกได้แล้ว.
เหตุให้เกิดโลก เป็นสภาพที่ตถาคตได้รู้พร้อมเฉพาะแล้ว
ตถาคตจึงละเหตุให้เกิดโลกได้แล้ว.
ความดับไม่เหลือของโลกเป็นสภาพที่ตถาคตรู้พร้อมเฉพาะแล้ว
ตถาคตจึงทำให้แจ้งความดับไม่เหลือของโลกได้แล้ว.
ทางให้ถึงความดับไม่เหลือของโลก เป็นสิ่งที่ตถาคตรู้พร้อมเฉพาะแล้ว
ตถาคตจึงทำให้เกิดมีขึ้นได้แล้ว ซึ่งทางให้ถึงความดับไม่เหลือของโลกนั้น.

ภิกษุทั้งหลาย !  อายตนะอันใด ที่พวกมนุษยโลก พร้อมทั้งเทวโลก มาร, พรหม,
ที่หมู่สัตว์พร้อม ทั้งสมณพราหมณ์ พร้อมทั้งเทวดาและมนุษย์
ได้เห็นได้ฟัง ได้ดม-ลิ้ม-สัมผัส ได้รู้แจ้ง ได้บรรลุ
ได้แสวงหา ได้เที่ยวผูกพันติดตามโดยน้ำใจ,
อายตนะนั้น ตถาคตได้รู้พร้อมเฉพาะแล้วทั้งสิ้น
เพราะเหตุนั้น จึงได้นามว่า “ตถาคต”.

ภิกษุทั้งหลาย !  ในราตรีใด ตถาคตได้ตรัสรู้ และในราตรีใด ตถาคตปรินิพพาน,
ในระหว่างนั้น ตถาคตได้กล่าวสอบ พร่ำสอน แสดงออกซึ่งคำใด,
คำนั้นทั้งหมด ย่อมมีโดยประการเดียวกันทั้งสิ้น ไม่แปลกกันโดยประการอื่น,
เพราะเหตุนั้น จึงได้นามว่า “ตถาคต”.

ภิกษุทั้งหลาย !  ในโลก พร้อมทั้งเทวโลก มาร, พรหม,
ในหมู่สัตว์พร้อมทั้งสมณพราหมณ์ พร้อมทั้งเทวดาและมนุษย์
ตถาคตเป็นผู้เป็นยิ่ง ไม่มีใครครอบงำ เป็นผู้เห็นสิ่งทั้งปวงโดยเด็ดขาด
เป็นผู้มีอำนาจสูงสุด (โดยธรรม) แต่ผู้เดียว,
เพราะเหตุนั้น จึงได้นามว่า “ตถาคต”.

บาลี  จตุกฺก. อํ. ๒๑/๓๐/๒๓, อิติวุ. ขุ. ๒๕/๓๒๑/๒๙๓.


พุทธวจน ตถาคต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น