วันศุกร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ทำไมคนที่ทำบาปกรรมอย่างเดียวกัน แต่รับวิบากกรรมต่างกัน

ภิกษุทั้งหลาย !

ใครพึงกล่าวว่า คนทำกรรมอย่างใดๆ ย่อมเสวยกรรมนั้นอย่างนั้นๆ ดังนี้
เมื่อเป็นอย่างนั้น การอยู่ประพฤติพรหมจรรย์ ก็มีไม่ได้
ช่องทางที่จะทำที่สุดทุกข์โดยชอบ ก็ไม่ปรากฏ

ส่วนใครกล่าวว่า คนทำกรรมอันจะพึงให้ผลอย่างใดๆ ย่อมเสวยผลของกรรมนั้นอย่างนั้นๆ ดังนี้
เมื่อเป็นอย่างนี้ การอยู่ประพฤติพรหมจรรย์ย่อมมีได้
ช่องทางที่จะทำที่สุดทุกข์โดยชอบก็ย่อมปรากฏ


ภิกษุทั้งหลาย !

บาปกรรมแม้ประมาณน้อย ที่บุคคลบางคนทำแล้ว บาปกรรมนั้นย่อมนำเขาไปนรกได้

บาปกรรมประมาณน้อยอย่างเดียวกันนั้น
บางคนทำแล้ว กรรมนั้นเป็นทิฏฐธรรมเวทนียกรรม ไม่ปรากฏผลมากต่อไปเลย
( ทิฏฐธรรมเวทนียกรรม คือ กรรมที่รู้เห็นผลได้ทันที )


บาปกรรมแม้ประมาณน้อย บุคคลชนิดไร ทำแล้ว บาปกรรมนั้นจึงนำเขาไปนรกได้ ?

บุคคลบางคนในโลกนี้
เป็นผู้มีกายมิได้อบรม มีศีลมิได้อบรม มีจิตมิได้อบรม มีปัญญามิได้อบรม มีคุณความดีน้อย
เป็นอัปปาตุมะ ( ผู้มีใจคับแคบ ใจหยาบ ใจต่ำทราม )
เป็นอัปปทุกขวิหารี ( มีปกติอยู่เป็นทุกข์ด้วยเหตุเล็กน้อย คือเป็นคนเจ้าทุกข์ )

บาปกรรมแม้ประมาณน้อย บุคคลชนิดนี้ทำแล้ว บาปกรรมนั้นย่อมนำเขาไปนรกได้


บาปกรรมประมาณน้อยอย่างเดียวกัน.
บุคคลชนิดไร ทำแล้ว กรรมนั้นจึงเป็นทิฏฐธรรมเวทนียกรรม ไม่ปรากฏผลมากต่อไปเลย ?

บุคคลบางคนในโลกนี้
เป็นผู้มีกายได้อบรมแล้ว มีศีลได้อบรมแล้ว มีจิต…มีปัญญาได้อบรมแล้ว มีคุณความดีมาก
เป็นมหาตมะ ( ผู้มีใจกว้างขวาง ใจบุญ ใจสูง )
เป็นอัปปมาณวิหารี ( มีปกติอยู่ด้วยธรรมอันหาประมาณมิได้ )

บาปกรรมประมาณน้อยอย่างเดียวกันนั้น
บุคคลชนิดนี้ทำแล้ว กรรมนั้นเป็นทิฏฐธรรมเวทนียกรรม ไม่ปรากฏผลมาก ต่อไปเลย.


ภิกษุทั้งหลาย !

ต่างว่า คนใส่เกลือลงไปในถ้วยน้ำเล็กๆ หนึ่งก้อน ท่านทั้งหลายจะสำคัญว่ากระไร ?
น้ำอันน้อยในถ้วยน้ำนั้น จะกลายเป็นน้ำเค็มไม่น่าดื่มไป เพราะเกลือก้อนนั้นใช่ไหม ?
“เป็นเช่นนั้น พระพุทธเจ้าข้า !”

เพราะเหตุไร ?
เพราะเหตุว่า น้ำในถ้วยน้ำนั้นมีน้อย มันจึงเค็มได้…เพราะเกลือก้อนนั้น.

ต่างว่า คนใส่เกลือก้อนขนาดเดียวกันนั้นลงไปในแม่น้ำคงคา ท่านทั้งหลายจะสำคัญว่ากระไร?
น้ำในแม่น้ำคงคานั้นจะกลายเป็นน้ำเค็ม ดื่มไม่ได้ เพราะเกลือก้อนนั้นหรือ ?
“หามิได้ พระพุทธเจ้าข้า !”

เพราะเหตุไร ?
เพราะเหตุว่า น้ำในแม่น้ำคงคามีมาก น้ำนั้นจึงไม่เค็ม…เพราะเกลือก้อนนั้น.

ฉันนั้นนั่นแหละ.

ภิกษุทั้งหลาย !

บาปกรรมแม้ประมาณน้อย
บุคคลบางคนทำแล้ว บาปกรรมนั้นย่อมนำไปนรกได้

ส่วนบาปกรรมประมาณน้อยอย่างเดียวกันนั้น
บางคนทำแล้ว กรรมนั้นเป็นทิฏฐธรรมเวทนียกรรม ไม่ปรากฏผลมากต่อไปเลย…


ภิกษุทั้งหลาย !
คนบางคนย่อมผูกพันเพราะทรัพย์ แม้กึ่งกหาปณะ… แม้ 1 กหาปณะ… แม้ 100 กหาปณะ
ส่วนบางคนไม่ผูกพันเพราะทรัพย์เพียงเท่านั้น

คนอย่างไร จึงผูกพันเพราะทรัพย์แม้กึ่งกหาปณะ ฯลฯ
คนบางคนในโลกนี้เป็นคนจน มีสมบัติน้อย มีโภคะน้อย
คนอย่างนี้ย่อมผูกพันเพราะทรัพย์แม้กึ่งกหาปณะ. ฯลฯ

คนอย่างไร ไม่ผูกพันเพราะทรัพย์เพียงเท่านั้น ?
คนบางคนในโลกนี้เป็นผู้มั่งคั่ง มีทรัพย์มาก มีโภคะมาก
คนอย่างนี้ย่อมไม่ผูกพันเพราะทรัพย์เพียงเท่านั้น

ฉันนั้นนั่นแหละ.


ภิกษุทั้งหลาย !

บาปกรรมแม้ประมาณน้อย
บุคคลบางคนทำแล้ว บาปกรรมนั้นย่อมนำไปนรกได้

ส่วนบาปกรรมประมาณน้อยอย่างเดียวกันนั้น
บางคนทำแล้ว กรรมนั้นเป็นทิฏฐธรรมเวทนียกรรม ไม่ปรากฏผลมากต่อไปเลย…


ภิกษุทั้งหลาย !

พรานแกะหรือคนฆ่าแกะบางคน อาจฆ่า มัด ย่าง หรือทำตามประสงค์ซึ่งแกะที่ขโมยเขามาได้
บางคนไม่อาจทำอย่างนั้น

พรานแกะหรือคนฆ่าแกะเช่นไร จึงอาจฆ่า มัด ย่าง หรือทำตามประสงค์ซึ่งแกะที่ขโมยเขามาได้ ?
บางคนเป็นคนยากจน มีสมบัติน้อย มีโภคะน้อย
พรานแกะหรือคนฆ่าแกะเช่นนี้ อาจฆ่า ฯลฯ ซึ่งแกะที่ขโมยเขามาได้.

พรานแกะหรือคนฆ่าแกะเช่นไร ไม่อาจทำอย่างนั้น ?
บางคนเป็นผู้มั่งคั่ง มีทรัพย์มาก มีโภคะมาก เป็นพระราชาหรือราชมหาอำมาตย์
พรานแกะหรือคนฆ่าแกะเช่นนี้ ไม่อาจทำอย่างนั้น

มีแต่ว่าคนอื่นจะประณมมือขอกับเขาว่า
“ท่านผู้นิรทุกข์ ท่านโปรดให้แกะหรือทรัพย์ค่าซื้อแกะแก่ข้าพเจ้าบ้าง” ดังนี้ ฉันใด

ฉันนั้นเหมือนกัน.

ภิกษุทั้งหลาย !

บาปกรรมแม้ประมาณน้อย
บุคคลบางคนทำแล้ว บาปกรรมนั้นย่อมนำไปนรกได้

ส่วนบาปกรรมประมาณน้อยอย่างเดียวกันนั้น
บางคนทำแล้ว กรรมนั้นเป็นทิฏฐธรรมเวทนียกรรม ไม่ปรากฏผลมากต่อไปเลย…


ภิกษุทั้งหลาย !
ใครกล่าวว่า คนทำกรรมอย่างใดๆ ย่อมเสวยกรรมนั้นอย่างนั้นๆ ดังนี้
เมื่อเป็นอย่างนั้น การอยู่ประพฤติพรหมจรรย์ ก็มีไม่ได้
ช่องทางที่จะทำที่สุดทุกข์โดยชอบ ก็ไม่ปรากฏ

ส่วนใครกล่าวว่า คนทำกรรมอันจะพึงให้ผลอย่างใดๆ ย่อมเสวยผลของกรรมนั้นอย่างนั้นๆ ดังนี้
เมื่อเป็นอย่างนี้ การอยู่ประพฤติพรหมจรรย์ย่อมมีได้
ช่องทางที่จะทำที่สุดทุกข์โดยชอบก็ย่อมปรากฏ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น